รายการอย่างอื่นที่น่าสนใจ
พระลีลาข้างแจกัน เนื้อชินเงิน กรุวัดมหาธาตุ จ.สุโขทัย แชมป์งานพื้นที่ ติดรางวัล ที่ 1 งานสมาคมฯ @จังหวัดสุโขทัย
หมายเลข : 6363
พระลีลาข้างแจกัน เนื้อชินเงิน กรุวัดมหาธาตุ จ.สุโขทัย แชมป์งานพื้นที่ ติดรางวัล ที่ 1 งานสมาคมฯ @จังหวัดสุโขทัย
 
พระโพธิจักรใบโพธิ์ เนื้อดิน หลวงพ่อลี วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ ออกวัดป่าคลองกุ้ง จ.จันทบุรี ปี2496 พร้อมบัตรรับรองสมาคม
หมายเลข : 7994
พระโพธิจักรใบโพธิ์ เนื้อดิน หลวงพ่อลี วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ ออกวัดป่าคลองกุ้ง จ.จันทบุรี ปี2496 พร้อมบัตรรับรองสมาคม
 
เหรียญพระกริ่งสิทธัตโถ พระครูบริรักษ์ วีรญาโณ วัดบรมนิวาส ปี2512 พิมพ์พุ่มข้าวบิณฑ์กลาง เนื้อทองแดงผิวไฟ
หมายเลข : 6477
เหรียญพระกริ่งสิทธัตโถ พระครูบริรักษ์ วีรญาโณ วัดบรมนิวาส ปี2512 พิมพ์พุ่มข้าวบิณฑ์กลาง เนื้อทองแดงผิวไฟ
 
พระสมเด็จอนุสรณ์เจิมเครื่องดนตรีไทยชุดงาช้าง กองดุริยางค์ทหารเรือ กรุงเทพ ปี2536 ปลุกเสก 3 วาระ+1
หมายเลข : 8200
พระสมเด็จอนุสรณ์เจิมเครื่องดนตรีไทยชุดงาช้าง กองดุริยางค์ทหารเรือ กรุงเทพ ปี2536 ปลุกเสก 3 วาระ+1
 
เหรียญแพรแถบ กาชาดสมณาคุณ (สำหรับบุรุษ) เนื้อเงินรมดำ
หมายเลข : 5871
เหรียญแพรแถบ กาชาดสมณาคุณ (สำหรับบุรุษ) เนื้อเงินรมดำ
 
พระลีลา 25ศตวรรษ เนื้อดิน ปี2500 ปลุกเสกวัดสุทัศน์ กรุงเทพ พิมพ์ 2 เดือยหน้า หลังไม่มีเดือย
หมายเลข : 6369
พระลีลา 25ศตวรรษ เนื้อดิน ปี2500 ปลุกเสกวัดสุทัศน์ กรุงเทพ พิมพ์ 2 เดือยหน้า หลังไม่มีเดือย
 

eXTReMe Tracker


แหล่งข้อมูล สาระ พระเครื่อง พระบูชา วัตถุมงคล ของสะสม
 ค้นหาบทความ    

เหรียญชนะใจ หลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ ปี2545

พระครูอนุรักษ์วรคุณ (หลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ)

พระครูอนุรักษ์วรคุณ นามเดิม สง่า เวสสุวรรณ ถือกำเนิดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2459 เป็นบุตรของนายเขี้ยม - นางเม้า เวสสุวรรณ ณ บ้านหม้อ ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ชีวิตในวัยเยาว์เริ่มเรียนหนังสือในโรงเรียนวัดบ้านหม้อ ซึ่งสมัยก่อนศาลาวัดจะเป็นสถานที่ศึกษาเล่าเรียนเขียนอ่าน มีครูอาจารย์ที่เป็นพระสงฆ์เป็นผู้อบรมสั่งสอน บางวันเด็ก ๆ ต้องนอนค้างที่วัดรวมทั้งตัวของหลวงพ่อสง่าเองด้วย เพื่อคอยปรนนิบัติรับใช้พระสงฆ์ ชีวิตของหลวงพ่อสง่าจึงอยู่ใกล้ชิดพระใกล้วัดมาโดยตลอด โดยอุปนิสัยใจคอแล้วท่านเป็นเด็กกล้าคิด กล้าหาญ กล้าทำ และมีความสนใจเรียนรู้เป็นพิเศษ อยู่โรงเรียนวัดบ้านหม้อจนกระทั่งจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พออ่านออกเขียนได้ แล้วก็ออกจากโรงเรียนมาช่วยเหลือพ่อแม่ทำไร่ทำนา

ครั้นเติบโตเป็นหนุ่มใช้ชีวิตอยางคุ้มค่าตามวิสัยของชายชาตรี เสร็จจากทำนาก็เที่ยวสนุกสนานไปตามหมู่บ้านอื่น ๆ พอถึงฤดูทำนาก็เลิกเที่ยวประกอบอาชีพหลักต่อไป บางครั้งท่านเที่ยวยังหมู่บ้านอื่นเพื่อแสดงหาความรู้ด้านวิชาคาถาอาคมจากครูอาจารย์ที่เก่ง ๆ แต่ก็ไม่ประสบผลเป็นที่พอใจเท่าไหร่นัก คราวหนึ่งมีคนในหมู่บ้านถูกทำร้ายปางตาย เพราะเรื่องผู้หญิง ที่ต้องการแสดงอำนาจความยิ่งใหญ่นั่นเอง ท่านเห็นเหตุการณ์ก็มาคิดว่า ... ถ้าเรามีวิชาอาคม ก็อาจช่วยชีวิตเขาได้

นับแต่นั้นมา ท่านก็เดินทางไปเรียนวิชากับหลวงพ่อวัดไทรอารีรักษ์ แต่กลับถูกตั้งคำถามว่า ... มาจากไหน? ท่านก็ตอบไปว่า ... มาจากวัดบ้านหม้อ ... หลวงพ่อวัดไทรก็ย้อนถามมาว่า ... หาหญ้ากินไกลคอกเหลือเกินนะเรา อย่าลืมหญ้าปากคอกดูบ้าง ว่าหญ้าปากคอกนั้น งามขนาดไหนกัน ... หลวงพ่อได้แต่คิดถึงปริศนาถ้อยคำของหลวงพ่อวัดไทรฯ ก็คิดไม่ออกจากนั้นประมาณอาทิตย์กว่าท่านมาทบทวนปริศนาก็รู้แจ้งความจริงจึงตัดสินใจเข้าไปหาหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดบ้านหม้อที่อยู่ใกล้บ้าน เปรียบเหมือนหญ้าปากคอกที่ดังที่หลวงพ่อวัดไทรพูดไว้ เมื่อมีโอกาสก็เข้าไปขอเรียนวิชาอาคมที่วัด เรียนอยู่เป็นแรมปีจนมีความรู้แคล่วคล่องในบทสวย คาถาอาคม อักขระเลขยันต์พอสมควร

ปี พ.ศ. 2481 ในขณะที่ท่านมีอายุได้ 22 ปี ก็ตัดสินใจเข้าอุปสมบทที่วัดบ้านหม้อ โดยมี พระอธิการกลิ่น วัดคงคาเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์เกลี้ยง วัดเฉลิมอาสน์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์เซ้ง และ พระอาจารย์แป๊ะ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ (สมัยนั้นใช้พระคู่สวดในพิธีกรรมถึง 3 รูป) ได้รับฉายา อนุปุพโพ

ครั้นอุปสมบทแล้วอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านหม้อ ศึกษาพระธรรมวินัยจนสามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี โท โดยลำดับ ในช่วงนั้นท่านก็ศึกษาวิชาอาคม อักขระเลขยันต์ ภาษาไทย ภาษาขอม เพิ่มเติมจากพระอาจารย์แป๊ะ พระอาจารย์เปีย วัดบ้านหม้อ ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เชี่ยวชาญวิชาอาคมในย่านนั้น จากนั้นก็สนใจวิชาแพทย์ไทยแผนโบราณและสมุนไพร ตลอดเวลาที่จำพรรษาอยู่วัดบ้านหม้อ 3 พรรษา ท่านได้วิชาความรู้มากพอที่จะรักษาตนเองและช่วยเหลือผู้อื่นได้บ้าง ต่อมาในปี พ.ศ. 2484 ทางวัดหนองม่วง อ.บางแพ จ.ราชบุรี ขาดพระสงฆ์ผู้นำที่จะดูแลวัดซึ่งเป็นวัดเก่าแก่มากวัดหนึ่ง สร้างแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาตอนต้น อุโบสถทรุดโทรม วัดตกอยู่ในสภาพกึ่งร้างกลายสภาพเป็นป่า นอกจากโบสถ์แล้วก็มีศาลาการเปรียญเล็ก ๆ และหมู่กุฏิสงฆ์เพียงไม่กี่หลังเท่านั้น คณะสงฆ์เห็นความสามารถของท่านจึงนิมนต์ให้ไปดูแลพัฒนาวัดให้คงสภาพที่ดีขึ้น

ในตอนแรกที่ไปอยู่ใหม่ ๆ ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก พบอุปสรรคมากมายต้องเดินทางด้วยเท้าเพียงอย่างเดียว ผจญกับโรคภัยไข้เจ็บโจรผู้ร้ายก็ชุกชุม แต่หลวงพ่อก็ใช้วิชาความรู้พัฒนาวัด ทำถนนหนทางในหมู่บ้าน เริ่มบูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะขึ้นโดยลำดับ ชาวบ้านละแวกนั้นมีอาชีพทำนา รายได้ก็ไม่ค่อยจะดีนัก ทำไร่ปีละครั้ง ไร่นาก็ได้ผลน้อย มาระยะหลังเปลี่ยนอาชีพมาเลี้ยงวัวนมจึงมีรายได้ดีขึ้น จึงเป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือพัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นมา เมื่อกล่าวถึงการพัฒนาถาวรวัตถุภายในวัด ท่านใช้เวลาอยู่นานหลายปี เพราะในอดีตการสร้างวัดพัฒนาวัดต้องอาศัยแรงศรัทธาจากชาวบ้าน ไม่มีผู้รับเหมาก่อสร้างดังปัจจุบัน พระต้องใช้ความรู้ความสามารถเรียกศรัทธาจากชาวบ้านเป็นส่วนใหญ่ งานจึงสำเร็จไปได้ด้วยดี ที่วัดหนองม่วงมีปูชนียวัตถุรอยพระพุทธบาทให้ไปกราบไหว้บูชาดูร่มรื่นเย็นใจ

การศึกษาพุทธาคม หลวงพ่อสง่าเริ่มศึกษาอักขระ เลขยันต์ คาถาอาคมตั้งแต่ตอนเป็นหนุ่มสมัยยังอยู่ที่บ้านหม้อ ทั้งวิชาสักยันต์ตามความเชื่อของคนหนุ่มในสมัยนั้น ครั้นมาอุปสมบทแล้วก็ให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง ท่านเล่าว่า แม้จะไม่ใช่กิจของสงฆ์ แต่เป็นความนิยมของคนสมัยนั้น เพื่อให้เกิดศรัทธายึดเหนี่ยวทางจิตใจ หลวงพ่อเป็นอาจารย์สักอยู่หลายปี ทั้งนี้เพื่อให้ชาวบ้านได้ใกล้วัดใกล้พระที่จะมุ่งเข้าสู่อุบายธรรมอบรมสั่งสอนได้ง่ายขึ้น คนที่สักยันต์จากท่านแล้วเป็นคนดีก็มาก เป็นนักเลงก็มี แต่หลังจากนั้นท่านก็เลิกพิธีกรรมทั้งหมด เพราะเห็นว่าไม่เกิดแก่นสารที่แท้จริง สำหรับการศึกษานั้น ท่านเล่าว่า อาจารย์แต่ก่อนเขาให้เราศึกษาวิธีก่อน วิชาหาง่าย แต่วิธีหายาก วิชาเขียนอยู่ในตำรับ แต่วิธีต้องปฏิบัติเป็นใช้เป็น ครูบาอาจารย์จึงสอนให้รู้จักใช้วิธีกันก่อน

เมื่อมีเวลาว่าง ท่านได้ขอต่อวิชาจากหลวงปู่ดี วัดบ้านยาง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ซึ่งเก่งในการสร้างพระปิดตามหาอุตม์ คงกระพันชาตรี หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ จ.กาญจนบุรี ศิษย์หลวงปู่ยิ้ม สอนวิชาเขียนลบผงอิทธิเจ ปถมัง ตรีนิสิงเห พุทธคุณยันต์ 108 นะ 108 ฯลฯ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง จ.นครปฐม ถ่ายทอดสุดยอดวิชาหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม ครอบครูนะเมตตา สอนการเจริญวิปัสสนา สมาธิ และสุภาษิตบันลือโลก "รู้จักพอ ก่อสุข ทุกสถาน" หลวงพ่อสง่ามีความจำเป็นเลิศ สามารถนำสรรพเวทย์ สรรพวิชาต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้แล้วแต่โอกาส

ปฏิปทากิติคุณ คุณธรรมของหลวงพ่อสง่าท่านเป็นพระที่มีเมตตาธรรมสูง พัฒนาวัดพัฒนาคนให้รู้จักหลักการดำเนินชีวิตอย่างปกติสุข ให้รู้จักอดอน เพียรพยายามพึ่งตนเอง ชนะใจตนเอง เน้นวิถีชีวิตอย่างชาวบ้าน ดังคำสอนที่ท่านเน้นเสมอว่า คนเราถ้าไม่รวยก็อย่าจน หาได้ใช้เป็นก็จะไม่จน ศิษย์ของท่านมากมายทั้งในกรุงเทพ และจังหวัดอื่น ๆ บ้างก็นิมนต์ท่านเพื่อเป็นประธานงานบำเพ็ญกุศล บ้างก็ไปหาท่านเพื่อกราบไหว้บ้าง ขอของดีจากท่านบ้าง ท่านก็ให้การต้อนรับอย่างไม่มีพิธีรีตองอะไรนัก

ข้าราชการหลายท่านที่เดินทางไปกราบนมัสการขอให้ท่านรดน้ำมนต์ และทำพิธีสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา เมื่อสมัยที่ยังจำพรรษาที่วัดหนองม่วง เมื่อท่านทำให้ใครแล้ว เรื่องร้าย ๆ จะกลายเป็นดีไป บางคนค้าขายไม่ดีไปหาท่าน ท่านก็เมตตาให้ศีลให้พร ก็ค้าขายดีขึ้น หลวงพ่อสง่ามีความเชี่ยวชาญในเรื่องฤกษ์ยาม มีเรื่องเล่ากันว่าที่ฝั่งธนบุรีและแถวบ่อนไก่ เมื่อหลายปีก่อนมีค่ายมวยชื่อดังค่ายหนึ่ง ซึ่งแรกก็ไม่รู้จักหลวงพ่อสง่า มีเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่มาฝึกหัดมวยคนหนึ่ง วัดหนึ่งไปเที่ยวงานวัดใกล้ค่ายมวย ถูกเด็กเจ้าถิ่นแทงด้วยมีดพกและถูกรุมทำร้าย หัวหน้าคณะและเพื่อนนักมวยพอรู้ข่าวก็ไปช่วยดูแล เมื่อรู้ว่าไม่เป็นอะไรมากจึงสอบถามว่ามีอะไรดี ? เขาบอกว่าไปลงกระหม่อมมา และมีตะกรุดหลวงพ่อสง่าติดตัวอยู่เพียงดอกเดียว ต่อมาคณะนักมวยก็เดินทางไปกราบนมัสการท่านถึงวัดเพื่อขอของดี นักมวยคนที่เคยถูกทำร้ายนั้น ทุกครั้งที่จะขึ้นชกต้องไปให้หลวงพ่อเป่ากระหม่อมก่อนเสมอ ชกทีไรไม่เคยแพ้ ถึงแพ้บ้างก็เพียงคะแนนเท่านั้น ตอนหลัง ๆ ค่ายมวยแห่งนี้ขอให้ท่านลงมงคลสวมหัวนักมวยซึ่งต้องใช้ฤกษ์ยามเวลาเริ่มต้น และค่ายมวยแห่งนี้ยังนิมนต์ท่านไปเจิมป้ายเพื่อเป็นสิริมงคลด้วย

วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง เพื่อเป็นการแสดงมุทิตาสักการะ และเป็นวัตถุมงคลที่ระลึกเนื่องในโอกาสที่ หลวงพ่อสง่า อนุปุพโพ ประธานสงฆ์วัดบ้านหม้อ ได้เจริญพรรษามายุครบ 86 ปี และเพื่อนำรายได้สมทบการสร้าง และบูรณะปฏิสังขรณ์ปูชนียวัตถุและเสนาสนะวัดบ้านหม้อที่ชำรุดทรุดโทรม

พิธีมหาพุทธาภิเษก วัตถุมงคล หลวงพ่อสง่า อนุปุพโพ รุ่น ชนะใจ (ครบรอบ 86 ปี) ได้ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ วัดบ้านหม้อ ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 2545 โดยมีพระเกจิภาวนาจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิ 6 รูป ร่วมนั่งปรกอธิฐานจิต ดังนี้

1. พระวิสุทธาธิบดี วัดสุทัศน์ กรุงเทพฯ องค์ประธานจุดเทียนชัย
2. พระเทพปริยัตมุนี วัดพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม
3. หลวงพ่อลำใย วัดทุ่งลาดหญ้า จ.กาญจนบุรี
4. หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม
5. หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม จ.นครปฐม
6. หลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ จ.ราชบุรี



พระเครื่อง สิ่งสะสม ทุกรายการ รับประกันความแท้ และ ความพอใจ
Copyright www.collection9.net All Rights Reserved.